[SF] คำโกหกของผู้ชายทั้งห้า(พวกคุณยังเชื่อมันอยู่มั้ย?)
tvxq feat. cassiopiea
ผู้เข้าชมรวม
2,140
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คำโกหก ทุกคนคงเคยพูดคำโกหกสินะ มันเหมือนเป็นสัจธรรมที่ว่า หากมีความจริงก็ต้องมีคำโกหก ------------------------------------------------- ผม ปาร์คยูชอนครับ ครั้งหนึ่งผมเคยพูดเอาไว้ว่า “แม้ทุกอย่างจะล้มเหลว ตราบใดที่พวกเราห้าคนยังอยู่ด้วยกัน มันจะต้องไม่เป็นไร” ผมเคยพูดว่า “พวกเขาเป็นมากกว่าครอบครัว” ผมเคยพูดอย่างภาคภูมิใจที่สุดว่า “ไม่ใช่แค่สองปี หากแม้กระทั่งยี่สิบปี สองร้อยปี สองพันปี พวกเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้เสมอ” จนถึงตอนนี้ทุกคนคงคิดว่าผมโกหกสินะครับ ผมเสียใจจริงๆที่ต้องกลายเป็นคนหลอกลวงในสายตาของพวกคุณ ภายนอก พวกเราอาจไม่ได้อยู่เดินเคียงข้างด้วยกันอีกต่อไป ผมไม่ได้ดูแลใกล้ชิดพวกเขาเหมืนกับครอบครัวอย่างที่พูดไว้ แต่ใครจะรู้บ้างว่าภายในใจของผมนั้นเป็นอย่างไร ภายนอกเราอาจไม่ได้ติดต่อกัน ดูเหมือนว่าพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว แต่สำหรับผม.. พวกเรายังอยู่ด้วยกันเสมอ ในโลกที่มีข้อจำกัดมากมาย พวกเรามีเหตุผลให้ต้องพรากจากกันทางกาย แต่ไม่มีทางที่ใจเราจะจากกัน ผมจะยังขอยืนยันคำพูดเดิมครับว่า “ไม่ใช่แค่สองปี หากแม้กระทั่งยี่สิบปี สองร้อยปี สองพันปี พวกเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้เสมอ” ทุกๆอย่างจะต้องไม่ล้มเหลว มันจะต้องไม่เป็นอะไร เพราะพวกเขายังคงเป็นมากกว่าครอบครัวของผมเสมอ เพราะว่าพวกเราจะอยู่ในใจของกันและกันตลอดไป เพราะแบบนั้น...เราจะต้องไม่เป็นอะไร จนถึงตอนนี้ผมกล้าบอกได้แล้วครับว่าผมไม่ใช่คนโกหก ผมหวังว่า...พวกคุณจะรับรู้มันได้สักที แคสสิโอเปีย --------------------------------- ผมชิมชางมินครับ ผมเคยพูดเอาไว้ว่า “เฉพาะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันห้าคนเท่านั้น พวกเราจึงจะเรียกได้ว่าดงบังชินกิ” ผมเคยบอกว่า “ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในตัวผม สำคัญเท่ากับชีวิตของผม” พวกคุณคงคิดว่าผมเป็นคนโกหกสินะ เพราะในวันนี้พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันห้าคนอีกแล้ว แต่ผมก็ยังทำงานต่อไปภายใต้ชื่อ ดงบังชินกิ ผมกลายเป็นคนพูดปดต่อคนที่ผมรักมากที่สุดในโลก ผมทำร้ายแฟนๆของผมอย่างเลือดเย็นด้วยคำพูดของตัวเอง ผมขอโทษครับที่ต้องทำให้พวกคุณเจ็บช้ำขนาดนี้ ผมขอโทษที่ทำต้องให้เสียน้ำตา แต่พวกคุณจะช่วยลองฟังคำอธิบายจากคนโกหกคนนี้ดูบ้างได้มั้ย พวกคุณจะช่วยเชื่อคนที่ทำร้ายจิตใจพวกคุณอีกสักครั้งนึงได้มั้ย ผมไม่นึกไม่ฝันว่าเราจะต้องมาแยกจากกัน ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเรื่องจะบานปลาย ผมไม่คิดเลยว่าจะต้องมาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับใจ โกรธตัวเองเหมือนกันที่ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูด แต่จะมีใครเข้าใจผมบ้างมั้ยว่าจริงๆแล้วผมรู้สึกยังไง อยากจะทำอะไร มันทรมานเหลือเกินครับ ที่ต้องเก็บทุกอย่างไว้ข้างใน สำหรับผมแล้ว ดงบังชินกิยังคงมีสมาชิกห้าคนตลอดไป แม้ในตอนนี้จะเป็นการแสดงของคนแค่สองคน แต่พลังใจของใครอีกสามคนยังคงอยู่ตรงนี้ครับ พวกเราจะต้องไม่ทำให้ดงบังชินกิที่ยิ่งใหญ่ต้องเสื่อมเสีย ผมจะรักษาชื่อนี้ของพวกเราทั้งห้าคนเอาไว้ให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่พวกเรา...จะกลับมาอยู่ด้วยกัน..อีกครั้ง ผมจะยังคงเป็นน้องเล็กที่อ่อนแอที่สุด และจะต้องคอยติดอยู่กับพี่ๆของผมต่อไป ผมไม่ได้โกหกครับ.. ในทุกๆคำพูดของผมคือความจริงจากใจที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะพวกเขายังคงเป็นคนที่สำคัญมากกว่าชีวิตของผม เพราะพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมตลอดไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่ความจริงก็ยังคงเดิม “เพราะมีแค่เวลาที่เราอยู่ด้วยกันห้าคนเท่านั้น พวกเราจึงจะเรียกได้ว่าดงบังชินกิ” ที่สมบูรณ์ ------------------------------------------------------------ ผมคิม จุนซูครับ ครั้งหนึ่งผมเคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้ามีเพียงผมคนเดียว ก็ไม่มีทางที่จะมาไกลได้ถึงขนาดนี้ แต่ที่มาถึงจุดนี้ด้วยกันได้เพราะพวกเราห้าคนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ผมเคยบอกว่า “สมาชิกทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องของผม พวกเราเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน” ตอนนี้พวกคุณก็คงคิดว่าผมโกหกสินะ เพราะผมไม่ได้เดินหน้าต่อไปพร้อมกับพวกเขาทุกคน เพราะผมไม่ได้ยืนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับสมาชิกทั้งสี่ แต่ในความเป็นครอบครัวนั้น พวกเราอาจต้องแยกจากกันบ้าง แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีแต่ความจำเป็นก็บังคับให้เราต้องพรากจาก น่าเสียใจมาก ที่ในบางครั้งพวกเราก็เข้าใจผิดกัน น่าละอายครับ ที่จะต้องบอกกับทุกคนว่า ผู้ชายอายุเบญจเพศแล้วอย่างผมยังคงแสนงอนอย่างไร้เหตุผลในบางครั้ง แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่าการกระทำบางอย่างพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำ แม้จะรู้ดีว่านั่นคือความจำเป็น แต่ผมก็ยังอดรู้สึกเสียใจไม่ได้ ระยะทางที่ห่างกันมันทำให้ผมกลัวว่าพวกเขาจะเปลี่ยนใจไปจากผม ไม่คิด ไม่รู้สึก ไม่มีความหวังแบบเดียวกับผมอีกแล้ว เพราะผมยังรักไงละครับ เพราะว่าพวกเขายังคงสำคัญต่อผมมาก ในใจผมจึงเจ็บปวด ผมไม่ได้เล่นเกมส์กับชางมินอีก ผมไม่มีพี่ยุนโฮให้คอยอ้อน บางครั้งก็รู้สึกว่าเวทีมันเงียบเหงาไปมากเมื่อไม่มีพวกเขาทั้งสองคน... และสำหรับเด็กขี้น้อยใจอย่างผม ก็คงได้แต่นั่งปาดน้ำตาคิดถึงพวกเขา แต่แม้จะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ถึงผมจะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้ในตอนนี้ก็คือ ผมไม่ได้โกหกครับ... สมาชิกทั้งสี่คนยังคงเป็นคนที่เล่นฟุตบอลด้วยแล้วสนุกที่สุด พวกเขายังคงเปรียบเสมือนพี่น้องของผม จะยังคงเป็นเสมือนคนในครอบครัวของผม...ตลอดไป..... --------------------------------------------- สวัสดีครับ ผมชอง ยุนโฮครับ ครั้งหนึ่งในช่วงที่ผมมีความสุขมากๆ ผมเคยพูดไว้ว่า “ไม่ว่าพวกเราจะต้องเผชิญกับความลำบากมากแค่ไหน พวกเราจะต่อสู้มันไปด้วยกัน ขอแค่เพียงพวกเราทั้งห้าคนอยู่ด้วยกัน นั่นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดแล้ว” ใช่ครับ ผมคนนี้เองที่เคยตอบคำถามอย่างมั่นใจว่า “ผมจะรวบรวมสมาชิกของผมอีกครั้งในฐานะหัวหน้าวง” ตอนที่มีคนถามเรื่องการแยกวง เวลานี้..ทุกคนคงคิดว่าผมเป็นคนโกหกแล้วสินะครับ ต้องยอมรับจริงๆว่าผมตอบไปโดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าวันนั้นจะมาถึง วันที่หัวใจผมแหลกสลาย เจ็บปวดราวกับโลกทั้งใบกำลังพังลงต่อหน้าต่อหน้า เหมือนกับว่านาฬิกาแห่งชีวิตของผมได้หยุดเดินลงแล้ว ใช่ครับ..ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผม มันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม น้ำตาที่ไม่ได้หลั่งไหลออกมาจากดวงตาหากแต่ไหลรินอยู่ในใจตลอดเวลา ผมใช้ชีวิตต่อไปราวกับหุ่นยนต์ ในใจมันชาไปหมด ทุกเรื่องเหมือนจะประดังประแดเข้ามา หลายๆอย่างเปลี่ยนไปมากมาย มีข้อแม้เงื่อนไข ข้อกำหนดที่ทำให้เราต้องพลัดพรากและแทบจะไม่ได้ติดต่อกัน ผมนั่งมองดูพวกเขาผ่านทางจอทีวี ไม่ได้แม้แต่จะพูดคุยกัน..แต่ไม่รู้ทำไม..ในใจของผมรับรู้ได้ว่าเรายังเหมือนเดิม ผมสงสารก็แต่แฟนคลับของพวกเราครับ มีข่าวความแตกแยกออกมามากมาย พวกเขาไม่เพียงปลอบใจกันเอง แต่ยังส่งกำลังใจถึงพวกเราตลอด หลายๆคนคงจะร้องไห้ หลายๆคนคงไม่กล้าเปิดคอมดูข่าวพวกเราอีก หลายๆคนอาจจะ..เลิกชอบพวกไป... ผมเสียใจครับ ที่ทำไม่ได้อย่างที่พูด ผมขอโทษ..ที่ทำหน้าที่หัวหน้าวงได้แย่ขนาดนี้...ผมปล่อยพวกเขาเดินจากไปได้ยังไง..ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พวกเราต้องแยกกันแบบนี้ สิ่งเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่ได้น้อยไปกว่าพวกคุณเลย ผมคิดมากจนบางครั้งมันแทบจะทำให้ผมคลั่ง คำสัญญาที่เคยให้เอาไว้เหมือนจะกลับมาหลอกหลอนผมอยู่ทุกวัน พวกคุณ..ผิดหวังในตัวผมมากใช่มั้ย? ตอนนี้ ในสายตาของพวกคุณอาจไม่มีความภูมิใจในตัวหน้าวงคนนี้อีกต่อไป..คำพูดของผมบางคำมันกำลังทำร้ายพวกคุณอย่างมาก มันไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณคาดหวังจะได้ยิน แต่พวกคุณจะรู้บ้างมั้ยว่า คำพูดที่ออกจากปาก..บางครั้ง...ไม่ได้ออกมาจากใจ ผมได้แต่ภาวนาครับ..ให้ทุกคนได้โปรดรับรู้จิตใจของผมที โปรดรับรู้เอาไว้ด้วยเถิดครับว่า เวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกันห้าคนจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเสมอสำหรับผม รับรู้ทีเถอะครับว่า พวกเรายังคงต่อสู้ไปข้างหน้าด้วยกัน แม้จะไม่ได้เดินในเส้นทางเดียวกัน ไม่ได้เจอปัญหาเดียวกันอย่างที่แล้วๆมา แต่ที่ปลายทางอีกไม่ไกลเท่าไหร่นี้... เราจะได้เจอกันอีก และจนกว่าวันนั้นจะมาถึง..วันที่ผมจะพ้นจากการเป็นคนโกหก..วันที่ผมจะได้รวบรวมสมาชิกของผมอีกครั้ง ได้โปรดรอพวกเราด้วยครับ... ------------------------------------------------- สวัสดีครับ ผมคิมแจจุงครับ มีคนเคยถามผมว่าถ้าดงบังชินแยกกันจะทำยังไง “ในตอนนั้นผมบอกออกไปด้วยใจว่า “ผมคงจะเป็นนักร้องนำต่อไปในนามของสมาชิกวงดงบังชินกิ” ผมเคยพูดเอาไว้ว่า “พวกเราจะต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าหากไม่ใช่พวกเราทั้งห้าคน ก็ไม่ใช่โทโฮชินกิ” ผมคงกลายเป็นคนโกหกไปแล้วสินะครับ แม้ว่าผมจะพยายามพูดเท่าไหร่แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันก็ยากเหลือเกินที่จะทำให้พวกคุณเชื่อผม... ในช่วงที่พวกเราทั้งห้าคนงานรุมเร้าจนผมแทบจะกระอักเลือด ผมเคยคิดครับว่าหากมีอิสระ..หากว่าจะได้ทำแต่งานที่พวกเราอยากทำ มันคงจะเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุด เพิ่งรู้ตอนนี้เองครับ ว่าความเป็นอิสระที่ผมได้มา ไม่ได้มีความหมายเลยเมื่อพวกเราไม่ได้ใช้มันด้วยกันห้าคน มันเจ็บปวดมาก จนบางครั้งผมก็อยากจะเดินหนีไป หนีกลับไปสู่จุดเดิม ผมอยากจะกลับไปถูกกักขังอีกครั้งอย่างโง่เขลา เพียงแค่จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ผมเกือบจะละทิ้งความตั้งใจทุกอย่างแล้วเดินกลับไป พวกคุณโกรธผมมากใช่มั้ยครับที่ทิ้งพวกเขามา ผมคงกลายเป็นคนใจร้ายที่เห็นแก่เงินทอง แฟนๆยุนแจทั้งหลายคงจะคิดว่าผมโกหกใช่มั้ย ไหนหล่ะ คนที่เคยพูดว่า “รัก” อยู่ไหนหล่ะคนที่เคยบอกว่า “ยุนโฮเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต” เป็นผมเองครับที่พูดคำพูดเหล่านั้นออกไป ผมจากเขามา โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าในใจยังรักมากแค่ไหน ความคิดทุกอย่างที่ว่าจะตัดให้ได้กลับไม่เป็นผล ผมรู้ซึ้งแล้วว่า ใจของผมมันอยู่ที่เดิมตลอด ไม่ว่าตัวของผมจะอยู่ที่ไหน ใจของผมจะโบยบินกลับไปหาคนๆนั้นเสมอ พวกคุณคงไม่รู้หรอกครับ ว่ามีหลายครั้งแค่ไหนที่ผมร้องไห้นึกเสียใจที่จากมา พวกคุณคงไม่เข้าใจหรอกครับ ว่าผมคิดถึงมากแค่ไหน สำหรับคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาตลอดเวลาเก้าปี คนที่เป็นเสมือนอีกครึ่งนึงของชีวิต มันเจ็บปวดและเดียวดายแค่ไหนที่ต้องห่างกัน และเพราะคำว่าอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต ไม่ได้จะใช้ได้กับใครทุกคน เพราะ คำว่า “รัก” ไม่ได้จะเกิดขึ้นภายในวันเดียว เพราะแบบนั้น...ผมจึงไม่เคยเลิกกับเขาได้สักที ผู้ชายคนนั้น..ที่ชื่อ ชอง ยุนโฮ ผมยังคงคิดถึงอยู่ทุกวันครับ คิดถึงไม่ใช่แค่ยุนโฮ แต่คิดถึงความเป็นดงบังชินกิทั้งหมด คำว่า “อดีตสมาชิก” ทิ่มแทงลงในใจผมจนเจ็บแสบ ทำไมต้องใช้คำนั้นด้วยหล่ะครับ ผมไม่เคยลาออกจากวงของเรา แม้จะทำงานในอีกชื่อหนึ่ง แต่ในใจของผมและน้องๆ พวกเราก็ยังเป็นดงบังชินกิเสมอ อาจมีหลายสิ่งที่ห้ามผมจากการใช้ชื่อนั้น แต่มันห้ามใจของผมไม่ได้หรอกครับ เลือดสีแดงของความเป็นดงบังชินกิยังไหลเวียนอยู่ในตัวของผมตลอด ในทุกวินาทีที่ผมหายใจอยู่ ทุกอย่างยังคงเป็นคำว่าดงบังชินกิครับ ผมตั้งใจจะเรียนรู้ทุกอย่างให้มาก ผมต้องแข็งแกร่งขึ้น จะต้องพัฒนาตั้งเองให้ดีขึ้นกว่านี้ พวกเราต้องยืนอยู่ให้ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เพื่อที่ว่า..ในวันที่เรากลับมาอยู่ด้วยกัน....วันที่เราจะได้ใช้ความเป็นอิสระด้วยกัน..วันนั้น..เราจะไม่ล้ม..จะไม่มีใครที่หยุดเราได้ ผมจะปูทางเอาไว้รอพวกเขาครับ..ผมจะสร้างรากฐานความยิ่งใหญ่ของพวกเราเอาไว้ ผมจะยังคงเป็นนักร้องนำของวงดงบังชินกิต่อไป ไม่ว่าคนจะบอกว่าผมอยู่วงอะไรก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้ว คิม แจจุง ก็ยังเป็นสมาชิกของวงดงบังชินกิ เพราะแบบนี้ไงครับ ..เพราะความหวังของผมคือการได้กลับไปอยู่ด้วยกันห้าคนอีกครั้ง เพราะอย่างนั้น..พวกคุณอย่าพึ่งตัดใจไปจากพวกเราเลยนะครับ ได้โปรดอยู่เคียงข้างพวกเราไปจนสุดทางทีเถอะครับ พวกเราทั้งห้ายังคงคิดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน และผมก็หวังเอาไว้เหลือเกินว่าพวกคุณทุกคนจะยังเป็นแบบนั้นอยู่ อย่าทำให้ผมผิดหวังเลยนะครับ ช่วยอยู่เป็นแคสสิโอเปียที่ของพวกเราเหมือนที่ผ่านมาด้วยเถอะครับ ------------------------------------------------------------------ ดงบังชินกิทุกคน ไม่เคยโกหกพวกคุณเลย พวกเขายังรักษาสัญญาไว้ด้วยใจที่คงเดิม แล้วพวกคุณหล่ะยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย ครั้งหนึ่งเราเคยชูแท่งไฟ โชนแสงให้กับพวกเขาทั้งห้า ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างแด่เหล่าเทพทุกคน ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ พวกคุณเคยตะโกนบอกรักพวกเขา บอกเขาว่าคุณเป็นแคสสิโอเปียของเทพเจ้า..แล้วตอนนี้...คุณยังเป็นแบบนั้นอยู่รึเปล่า? คุณกำลังเป็นคนโกหกอยู่มั้ย... เพราะแคสสิโอเปีย...คือกลุ่มคนผู้รักดงบังชินกิที่มีสมาชิกทั้งห้าคน ไม่ใช่สอง ไม่ใช่สาม ชั้นคงนึงหล่ะที่กล้าพูดได้อย่างเต็มปากในตอนนี้..ว่าชั้นไม่ใช่คนโกหก อาจมีหลายครั้งที่เจ็บปวด มีหลายคราที่อยากจะตัดพวกเขาออกไปจากชีวิต แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้..อยากจะขอโทษเหลือเกินที่เคยเข้าใจผิด..อยากจะบอกว่าเสียใจที่ไม่เชื่อมั่นในตัวพวกเขามากพอ แต่ท้ายที่สุดแล้ว..ชั้นก็กลับมายืนอยู่ที่จุดเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ชั้นก็ค้นพบว่าหัวใจของชั้น มันยังเต็มไปด้วยความรักที่มอบให้แก่ผู้ชายทั้งห้าคนเสมอ และสำหรับคนที่รอพวกเขามาตลอดเวลา สองปี คนที่ร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงพวกเขาทั้งห้า ขอบคุณมาก ที่ฝ่าฟันความเจ็บปวดมาได้ ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้ พวกคุณคือคนที่เป็นมากกว่าแฟนคลับทั่วไป...คนที่สามารถมองเรื่องราวทั้งหมดด้วยหัวใจ...ไม่ใช่ที่ดวงตา เพราะความศรัทธาคือการเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ และเพราะเทพเจ้าทั้งห้าบอกให้เรา ศรัทธาในตัวพวกเขา ดังนั้น..เราจะเชื่อ...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..เราจะมั่นใจว่า..คำพูดที่ออกจากส่วนลึกเหล่านั้น...ไม่ใช่คำโกหก..หากแต่คือความจริง ----------------------------------------------------------------------------- JYJfrom東方神起 HOMIN from 東方神起 อ่านทวนแล้วน้ำตาคลอไปด้วย ยังทวนไม่จบแต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ส้มต้องติวสอบพรุ่งนี้ อย่าพึ่งดราม่ากันมากนะ ฮือๆๆ สู้ๆไปด้วยกันนะแคสสสส |
ผลงานอื่นๆ ของ sommyanhero ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ sommyanhero
ความคิดเห็น